ลักษณะทั่วไป
เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 4-10 เมตร ลำต้นกลมต้นตรง ไม่มีกิ่งก้าน ลำต้นเป็นข้อถี่ ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาล
ใบ เป็นใบเดี่ยวแตกออกจากลำต้นส่วนยอดเรียงซ้อนกันเวียนรอบลำต้นเป็นรูปวงกลม มีลักษณะใบ เรียวยาว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยงเป็นมันสีเขียว ตัวใบโค้งงอ ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร
ดอก ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้นช่อดอกมีขนาดใหญ่เป็นรูปทรงกลมช่อดอกยาวดอกมีขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นกลุ่มดอกมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน
การปลูก มี 2 วิธี คือ
1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก :ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 10- 18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ :ดินร่วนอัตรา 1:1:1 ผสมดิน ปลูกควรเปลี่ยนกระถาง 12 ปี/ครั้งหรือแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่ม เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินเดิมที่เสื่อมสภาพไป
การดูแลรักษา
ต้นวาสนาเป็นพืชที่ชอบแดดจัดแต่ก็อยู่ในที่ร่มรำไรได้ ควรหมั่นรดน้ำ เพื่อ ให้ดินชุ่มน้ำอยู่เสมอแต่อย่าให้แฉะ ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือน ละครั้งหมั่นทำความสะอาดใบ โดยใช้ผ้าเช็ดก็จะดี ช่วยป้องกันแมลงจำพวกเพลี้ยได้ เจริญเติบโตได้ในดินทุกประเภท แต่ต้องมีการระบายน้ำและอากาศที่ดี
แสง ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลางจนถึงมาก ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย มีความชื้นปานกลางจนถึงสูง
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง
อุณหภูมิ 18–24 องศาเซลเซียส
ความชื้น ต้องการความชื้นสูง
อัตราการคายความชื้น ปานกลางถึงมาก
โรค ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก
ฤดูการออกดอก : ช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือน พ.ย. - ม.ค.
เวลาที่ดอกหอม : ช่วงเย็นถึงมืด หรือช่วงที่มีอากาศเย็น
การใช้ประโยชน์: - ไม้ประดับ
- สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด : เอธิโอเปีย ไนจีเรีย กินี
พันธุ์นิยม : ราชินี และ อธิษฐาน
สรรพคุณทางยา: ใบ แก้ปวดท้อง ราก บรรเทาอาการปวดในการคลอดบุตร
ที่สำคัญ ต้นวาสนาเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ดูดสารพิษภายในอาคารจำพวก ฟอร์มาดีไฮด์ ได้มีประสิทธิภาพ
การขยายพันธุ์
การปักชำ เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด โดยการตัดเป็นท่อนๆ ความยาวตามความต้องการของเรา แต่ที่นิยมกันจะเป็นแบบ 3 ท่อนความยาวลดหลั่นกันลงมา มัดรวมกันแล้วนำไปปักชำ จะได้วาสนามีที่มีหลายๆ ยอดสวยงามดี ลองทำดูครับ ขนาดของกิ่งไม่เป็นอุปสรรคในการขยายพันธุ์แต่อย่างใด การชำส่วนที่เป็นยอดไม่ควรตัดใบออก เพราะว่าเมื่อออกรากแล้วอีกนานกว่าใบใหม่จะแตกมาทดแทน
ข้อดีของพันธุ์ไม้
-ต้องการพื้นที่ในการปลูกไม่มาก ขนาด 1x1 หรือ 2x2 ตรม. ก็เพียงพอ
-เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ลำต้นตั้งตรงสวยงาม ไม่มีความจำเป็นที่ต้องตัดแต่งทรงพุ่ม
-ใบไม่ค่อยร่วง
-เมื่อยังไม่โตพอที่จะออกดอกก็สามารถใช้เป็นไม้ประดับได้ดี โดยนิยมปลูกลงกระถางใช้ประดับได้ที่ภายในและภายนอกอาคาร
ข้อแนะนำ
-วาสนา เป็นพันธุ์ไม้หอมที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเป็นส่วนใหญ่ นานๆ ครั้งจึงจะออกดอกให้ชมกัน ดังนั้น การปลูกควรพิจารณาคุณสมบัตินี้ด้วย
-วาสนา เป็นพันธุ์ไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอากาศค่อนข้างเย็น พบต้นใหญ่ๆ ใบสวยออกดอกดกที่ภาคเหนือ แต่ก็สามารถปลูกได้ดีในภาคกลางและภาคอื่นๆ แต่การออกดอกจะไม่ค่อยดี เว้นเสียแต่ว่าในฤดูที่มีอากาศหนาวเย็นช่วงหนึ่งก็จะพบการออกดอกทั่วไป เช่น ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (2548) จะพบการออกดอกทั่วไปในหลายๆ พื้นที่
ในพื้นที่ที่เป็นดินที่มีเกลือ (ดินเค็ม) จะแสดงอาการใบไหม้ การเจริญเติบโตไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
ชนิดของวาสนา

วาสนาใบเขียวแถบเหลืองและใบเหลืองแถบเขียว
วาสนาใบเขียว
รูปแบบการจัดต้นวาสนาสำหรับปลูกในบ้าน