สถิติ
เปิดเมื่อ28/07/2012
อัพเดท1/08/2012
ผู้เข้าชม65782
แสดงหน้า78522
เมนู
ปฎิทิน
May 2023
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
   




ต้นวาสนา (เข้าชม 2035 ครั้ง)
ลักษณะทั่วไป          

       เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 4-10 เมตร ลำต้นกลมต้นตรง ไม่มีกิ่งก้าน ลำต้นเป็นข้อถี่ ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาล

     ใบ  เป็นใบเดี่ยวแตกออกจากลำต้นส่วนยอดเรียงซ้อนกันเวียนรอบลำต้นเป็นรูปวงกลม  มีลักษณะใบ   เรียวยาว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยงเป็นมันสีเขียว ตัวใบโค้งงอ ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6  เซนติเมตร ยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร
     ดอก  ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้นช่อดอกมีขนาดใหญ่เป็นรูปทรงกลมช่อดอกยาวดอกมีขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นกลุ่มดอกมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน
    

การปลูก มี 2 วิธี คือ  

1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก :ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก

2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 10- 18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ :ดินร่วนอัตรา 1:1:1 ผสมดิน    ปลูกควรเปลี่ยนกระถาง 12 ปี/ครั้งหรือแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่ม       เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินเดิมที่เสื่อมสภาพไป

การดูแลรักษา

     ต้นวาสนาเป็นพืชที่ชอบแดดจัดแต่ก็อยู่ในที่ร่มรำไรได้ ควรหมั่นรดน้ำ เพื่อ ให้ดินชุ่มน้ำอยู่เสมอแต่อย่าให้แฉะ ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือน ละครั้งหมั่นทำความสะอาดใบ โดยใช้ผ้าเช็ดก็จะดี ช่วยป้องกันแมลงจำพวกเพลี้ยได้ เจริญเติบโตได้ในดินทุกประเภท แต่ต้องมีการระบายน้ำและอากาศที่ดี 
แสง          ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ            ต้องการปริมาณน้ำปานกลางจนถึงมาก ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน           ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย มีความชื้นปานกลางจนถึงสูง
ปุ๋ย           ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง
อุณหภูมิ    18–24 องศาเซลเซียส
ความชื้น   ต้องการความชื้นสูง
อัตราการคายความชื้น              ปานกลางถึงมาก

โรค  ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก
ฤดูการออกดอก :  ช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือน พ.ย. - ม.ค. 
เวลาที่ดอกหอม  :  ช่วงเย็นถึงมืด หรือช่วงที่มีอากาศเย็น

การใช้ประโยชน์:       -    ไม้ประดับ
                                        -    สมุนไพร
              
ถิ่นกำเนิด :   เอธิโอเปีย ไนจีเรีย กินี
พันธุ์นิยม  :   ราชินี และ อธิษฐาน
สรรพคุณทางยา:  ใบ แก้ปวดท้อง ราก บรรเทาอาการปวดในการคลอดบุตร
ที่สำคัญ ต้นวาสนาเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ดูดสารพิษภายในอาคารจำพวก ฟอร์มาดีไฮด์ ได้มีประสิทธิภาพ


การขยายพันธุ์
การปักชำ เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด โดยการตัดเป็นท่อนๆ ความยาวตามความต้องการของเรา แต่ที่นิยมกันจะเป็นแบบ 3 ท่อนความยาวลดหลั่นกันลงมา มัดรวมกันแล้วนำไปปักชำ จะได้วาสนามีที่มีหลายๆ ยอดสวยงามดี ลองทำดูครับ ขนาดของกิ่งไม่เป็นอุปสรรคในการขยายพันธุ์แต่อย่างใด การชำส่วนที่เป็นยอดไม่ควรตัดใบออก เพราะว่าเมื่อออกรากแล้วอีกนานกว่าใบใหม่จะแตกมาทดแทน

ข้อดีของพันธุ์ไม้ 
-ต้องการพื้นที่ในการปลูกไม่มาก ขนาด 1x1 หรือ 2x2 ตรม. ก็เพียงพอ
-เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ลำต้นตั้งตรงสวยงาม ไม่มีความจำเป็นที่ต้องตัดแต่งทรงพุ่ม
-ใบไม่ค่อยร่วง
-เมื่อยังไม่โตพอที่จะออกดอกก็สามารถใช้เป็นไม้ประดับได้ดี โดยนิยมปลูกลงกระถางใช้ประดับได้ที่ภายในและภายนอกอาคาร


ข้อแนะนำ            
-วาสนา เป็นพันธุ์ไม้หอมที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเป็นส่วนใหญ่ นานๆ ครั้งจึงจะออกดอกให้ชมกัน ดังนั้น การปลูกควรพิจารณาคุณสมบัตินี้ด้วย
 -วาสนา เป็นพันธุ์ไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอากาศค่อนข้างเย็น พบต้นใหญ่ๆ ใบสวยออกดอกดกที่ภาคเหนือ แต่ก็สามารถปลูกได้ดีในภาคกลางและภาคอื่นๆ แต่การออกดอกจะไม่ค่อยดี เว้นเสียแต่ว่าในฤดูที่มีอากาศหนาวเย็นช่วงหนึ่งก็จะพบการออกดอกทั่วไป เช่น ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (2548) จะพบการออกดอกทั่วไปในหลายๆ พื้นที่
ในพื้นที่ที่เป็นดินที่มีเกลือ (ดินเค็ม) จะแสดงอาการใบไหม้ การเจริญเติบโตไม่ค่อยดีเท่าที่ควร


ชนิดของวาสนา
วาสนาใบเขียวแถบเหลือง

        วาสนาใบเขียวแถบเหลืองและใบเหลืองแถบเขียว


วาสนาใบเขียว

 
 

รูปแบบการจัดต้นวาสนาสำหรับปลูกในบ้าน